คัดกรองคู่สมรสกลุ่มเสี่ยง ให้คำแนะนำด้านโภชนาการเพื่อลดโอกาสการเกิดโรค
ให้คำปรึกษาคู่สมรสทางด้านพันธุศาสตร์ หากยังไม่เคยมีประวัติว่าบุตรเป็นปากแหว่งเพดานโหว่ ให้กินยาเม็ดโฟเลตอย่างน้อย 400 ไมโครกรัมต่อวัน หากมีประวัติบุตรเป็นปากแหว่งเพดานโหว่ ให้กินยาเม็ดโฟเลตอย่างน้อย 4 มิลลิกรัมต่อวัน
ตรวจวินิจฉัยด้วยอัลตราซาวน์
ให้คำปรึกษาบิดามารดาเกี่ยวกับการผ่าตัด
ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการให้นมแม่
ให้คำปรึกษาประคับประคองจิตใจบิดามารดา
ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการให้นมแม่ (เน้นการให้นมจากเต้าของมารดาเท่าที่เป็นไปได้) ดูแลเรื่องการให้นม ตรวจคัดกรองการได้ยิน ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพช่องปาก ตรวจสุขภาพทั่วไป และความแข็งแรงของทารก ตรวจหาความผิดปกติอื่น ๆ ดูแลด้านจิตใจ และเตรียมทารกให้เติบโตแข็งแรง พร้อมผ่าตัดเย็บริมฝีปาก
*ตรวจดูแลสุขภาพทั่วไป ความแข็งแรงของทารก ตรวจหาความผิดปกติอื่น ๆ ดูแลเรื่องการให้นม (เน้นการให้นมจากเต้าของแม่เท่าที่เป็นไปได้) ประคับประคองจิตใจ และเตรียมทารกให้เติบโตแข็งแรงเพื่อพร้อมรับการผ่าตัดเย็บริมฝีปาก
ตรวจคัดกรองการได้ยิน
แนะนำเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพช่องปาก และส่งต่อทันตแพทย์เฉพาะทางในกรณีที่พบความผิดปกติที่รุนแรง
ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการให้นมแม่ ให้คำปรึกษาคู่สมรสทางด้านพันธุศาสตร์
ให้การบำบัดทางทันตกรรมก่อนการผ่าตัด (เช่น เพดานเทียม อุปกรณ์ปรับโครงสร้าง จมูกและสันเหงือก และอื่น ๆ)
ประคับประคองจิตใจบิดามารดา ถ้าจำเป็น
ให้คำปรึกษาคู่สมรสทางด้านพันธุศาสตร์
ผ่าตัดซ่อมปากแหว่ง และ/หรือตกแต่งจมูก
ให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพช่องปากตั้งแต่ก่อนฟันน้ำนมจะขึ้น
ประเมินพัฒนาการด้านภาษาและเสียงพูด (กรณีเพดานโหว่)
ตรวจหูและตรวจการได้ยินที่เป็นมาตรฐาน และฟื้นฟูการได้ยินเมื่อพบปัญหา
ให้คำแนะนำ ดูแลก่อนและหลังการผ่าตัด
(กรณีเพดานโหว่) กระตุ้นภาษาและการพูดแต่แรกเริ่มก่อนจะพูดเป็นคำที่มีความหมายโดยพ่อแม่และครอบครัว
ประเมินพัฒนาการที่เกี่ยวข้องกับการได้ยิน ตรวจการได้ยินที่เป็นมาตรฐานในช่วงอายุ 9 และ 18 เดือน หรือเมื่อมีความกังวลเกี่ยวกับการได้ยิน
ผ่าตัดซ่อมเพดานโหว่เมื่ออายุประมาณ 9-18 เดือน
เจาะแก้วหูพร้อมใส่ท่อระบายถ้ามีปัญหาหูชั้นกลาง
(กรณีเพดานโหว่) ประเมินและกระตุ้นให้เด็กมีภาษาและการพูดได้เหมาะสมกับวัย ออกเสียงให้ถูกต้องเพื่อป้องกันการพูดไม่ชัดแบบชดเชย
พบทันตแพทย์ตามนัดทุก 6 เดือน เพื่อรับคำแนะนำในการดูแลสุขภาพในช่องปาก และตรวจรักษาในรายที่พบปัญหาฟันผุ
ประเมินพัฒนาการและดูแลสุขภาพทั่วไป
ประเมินการเจริญเติบโตและประคับประคองจิตใจบิดามารดา
ประเมินการเจริญเติบโต พัฒนาการ ดูแลสุขภาพทั่วไป และประคับประคองจิตใจบิดามารดา
เน้นการกระตุ้นพัฒนาการเพื่อให้เด็กมีภาษา การพูด และการออกเสียงอย่างถูกต้อง
ประเมินพัฒนาการที่เกี่ยวข้องกับการได้ยิน ตรวจการได้ยินที่เป็นมาตรฐาน หรือเมื่อผู้ปกครองมีความกังวลเกี่ยวกับการได้ยิน
รับคำแนะนำในการดูแลสุขภาพในช่องปาก และตรวจรักษาในรายที่พบปัญหาฟันผุ ทุก ๆ 6 เดือน
ส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดีและป้องกันปัญหาสุขภาพจิตที่จะเกิดขึ้นในบิดามารดาและผู้ป่วย ประเมินการเจริญเติบโตและพัฒนาการ และสุขภาพทั่วไปทุก 1 ปี
ติดตามให้ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม และประสานงานกับแหล่งสิทธิประโยชน์ เช่น สังคมสงเคราะห์
ตรวจประเมินและแก้ไขปัญหาทางภาษา การพูด เสียงลมรั่วออกจมูก และการสั่นพ้องของเสียงตามมาตรฐาน
ตรวจสอบและพิจารณาแก้ไขความผิดปรกติของปากและจมูกที่อาจหลงเหลืออยู่ รวมทั้งการผ่าตัดแก้ไขปัญหาทางการพูด เช่น เสียงรั่วออกจมูก
นัดทุก 6 เดือนเพื่อรับคำแนะนำในการดูแลสุขภาพในช่องปาก และตรวจรักษาในรายที่พบปัญหาฟันผุ
ส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดีและป้องกันปัญหาสุขภาพจิตที่จะเกิดขึ้นในบิดามารดาและผู้ป่วย ประเมินการเจริญเติบโตและพัฒนาการ และสุขภาพทั่วไปทุก 1 ปี
ประเมินและดูแลสุขภาพทั่วไปทุก 1 ปี
ตรวจและติดตามปัญหาการได้ยินปีละ 1 ครั้ง
ประเมินผลการรักษาที่อายุ 5 ปี ประเมินคุณภาพชีวิต 5 ด้าน คือ 1. ด้านการรักษา 2. ด้านการบริการ 3. ด้านค่ารักษา 4. ด้านจิตสังคม 5. ด้านผลกระทบต่อครอบครัว และประเมินภาพลักษณ์จากรูปภาพผู้ป่วยตามมาตรฐานสากล
ตรวจประเมินและแก้ไขปัญหาทางภาษา การพูด การสั่นพ้องของเสียง และลมรั่วออกจมูก ตามมาตรฐานและต่อเนื่อง
ตรวจสอบและพิจารณาแก้ไขความผิดปรกติของปากและจมูกที่อาจหลงเหลืออยู่ รวมทั้งการผ่าตัดแก้ไขปัญหาทางการพูด เช่น เสียงรั่วออกจมูก
นัดทุก 6 เดือน เพื่อรับคำแนะนำในการดูแลสุขภาพในช่องปากและส่งต่อทันตแพทย์จัดฟัน เพื่อให้การรักษาการสบฟันที่ผิดปกติในระยะฟันชุดผสม
ส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดีและป้องกันปัญหาสุขภาพจิตที่จะเกิดขึ้นในบิดามารดาและผู้ป่วย
ตรวจและติดตามปัญหาการได้ยินปีละ 1 ครั้ง
ประเมินและดูแลสุขภาพทั่วไปทุก 1 ปี
ให้การรักษาการสบฟันที่ผิดปกติในระยะฟันชุดผสม ตรวจเบื้องต้นโดยการเอกซเรย์ เพื่อค้นหาความผิดปกติที่อาจต้องพบทันตแพทย์จัดฟันก่อนเวลา
ให้การรักษาทางทันตกรรมจัดฟันเพื่อเตรียมช่องว่างที่เหมาะสมในขากรรไกรบนก่อนการปลูกกระดูกเบ้าฟัน(ในกรณีที่มีสันเหงือกแหว่ง) และกระตุ้นการเจริญของขากรรไกรบนในรายที่เหมาะสม
แก้ไขความผิดปรกติของปากและจมูกที่หลงเหลืออยู่ และในกรณีที่มีสันเหงือกแหว่ง ผ่าตัดปลูกกระดูกบริเวณรอยแยกสันเหงือก
ตรวจประเมินและแก้ไขปัญหาทางภาษา การพูด การสั่นพ้องของเสียง และลมรั่วออกจมูกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงก่อนและหลังการผ่าตัดสันเหงือก (ในรายที่จำเป็นต้องผ่าตัด)
ส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดีและป้องกันปัญหาสุขภาพจิตที่จะเกิดขึ้นในบิดามารดาและผู้ป่วย
ตรวจและติดตามปัญหาการได้ยินปีละ 1 ครั้ง
ประเมินและดูแลสุขภาพทั่วไปทุก 1 ปี
ประเมินผลการรักษาที่อายุ 10 ปี ประเมินคุณภาพชีวิต 5 ด้าน คือ 1. ด้านการรักษา 2. ด้านการบริการ 3. ด้านค่ารักษา 4. ด้านจิตสังคม 5. ด้านผลกระทบต่อครอบครัว และประเมินภาพลักษณ์จากรูปภาพผู้ป่วยตามมาตรฐานสากล
ประเมินและดูแลสุขภาพทั่วไปทุก 1 ปี ส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดีและป้องกันปัญหาสุขภาพจิตที่จะเกิดขึ้นในบิดา มารดา และผู้ป่วย
ตรวจรักษาและดูแลสุขภาพช่องปากทุก 6 เดือน
วางแผนการจัดฟันแก้ไขความผิดปกติของกระดูกขากรรไกรและการสบฟัน โดยการรักษาทางทันตกรรมจัดฟันเพียงอย่างเดียว หรือการรักษาทางทันตกรรมจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดและการบูรณะช่องปากร่วมกับทันตแพทย์สหสาขาวิชาในกรณีที่มีความผิดปกติที่ซับซ้อนมาก
ผ่าตัดแก้ไขเพิ่มเติมในรายที่จำเป็น
ตรวจประเมินและแก้ไขปัญหาทางภาษา การพูด และการสั่นพ้องของเสียงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงก่อนและหลังการผ่าตัดขากรรไกร(ในรายที่จำเป็นต้องผ่าตัด)
ประเมินและดูแลสุขภาพทั่วไปทุก 1 ปี คัดกรองปัญหาสุขภาพจิต ส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดีและป้องกันปัญหาสุขภาพจิตที่จะเกิดขึ้นในบิดา มารดา และผู้ป่วย
ตรวจและติดตามปัญหาการได้ยินปีละ 1 ครั้ง
ให้คำแนะนำผู้ป่วยเกี่ยวกับปัจจัยทางพันธุกรรมของภาวะปากแหว่ง เพดานโหว่ สำหรับการวางแผนครอบครัว
พบจิตแพทย์อย่างน้อย 1 ครั้ง
ประเมินผลการรักษาที่อายุ 19 ปี ประเมินคุณภาพชีวิต 5 ด้าน คือ 1. ด้านการรักษา 2. ด้านการบริการ 3. ด้านค่ารักษา 4. ด้านจิตสังคม 5. ด้านผลกระทบต่อครอบครัว และประเมินภาพลักษณ์จากรูปภาพผู้ป่วยตามมาตรฐานสากล