จากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนและบุคลากรทางการแพทย์ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2564 ในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ มีผู้ตอบแบบสอบถามถึง 222 คน มากที่สุด คือ พ่อแม่หรือผู้ปกครองถึง 97 คน (43.7%) และบุคลากรทางการแพทย์ที่ดูแลรักษา 95 คน (42.8%) ปัญหาทางใจเป็นสิ่งที่มีผู้เสนอเข้ามามากที่สุด คือ “การป้องกันหรือจัดการเมื่อลูกโดนล้อ” เป็นจำนวน 105 คนหรือร้อยละ 47.3 และ“แนวทางการดูแลจิตใจแก่ผู้ปกครองเพื่อพัฒนาพลังบวกให้ลูก” เป็นจำนวน 103 คนหรือร้อยละ 46.4 ทางกรรมการบริหารสมาคมฯ

หวังว่าจะเป็นเสวนาที่ประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งพ่อแม่ผู้ปกครองจะได้รับประโยชน์อย่างสูงสุด ทำให้ผู้ป่วยได้มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป

จากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนและบุคลากรทางการแพทย์ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2564 ในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ มีผู้ตอบแบบสอบถามถึง 222 คน มากที่สุด คือ พ่อแม่หรือผู้ปกครองถึง 97 คน (43.7%) และบุคลากรทางการแพทย์ที่ดูแลรักษา 95 คน (42.8%) โดยเรื่องที่มีผู้เสนอเข้ามามากที่สุด คือ “ความจำเป็นในการผ่าตัดตกแต่งจมูกเมื่อมีการผ่าตัดซ่อมภาวะปากแหว่ง” เป็นจำนวน 142 คนหรือร้อยละ 64 ทางกรรมการบริหารสมาคมฯ จึงเห็นควรจัดให้มีการเสวนาในเรื่องนี้ขึ้น ประเดิมเป็นการเสวนาทางวิชาการกับประชาชนเป็นครั้งแรกของสมาคมฯ ในวันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม 2564 เวลา 13.00-15.00 น.

ขอเน้นให้ทราบว่า กิจกรรมเสวนาประชาชนไม่ใช่การประชุมทางวิชาการ จะไม่มีการบรรยาย และวิทยากรหลักคือประชาชน โดยมีสมาชิกสมาคมฯ และศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทุกคนที่เข้าร่วมเสวนามีสิทธิ์ที่จะแสดงความคิดเห็น

อนึ่ง ความเห็นที่จะได้รับฟังในการเสวนาเป็นของผู้ที่ออกความเห็น ไม่ใช่ข้อสรุปหรือมาตรฐานในการดูแลผู้ป่วยของสมาคมฯ การดูแลรักษาผู้ป่วยเป็นศาสตร์และศิลป์ แพทย์ผู้รักษาต้องอาศัยข้อมูลในด้านต่าง ๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจ หากว่าการรักษาที่ผู้ป่วยได้รับไม่ตรงกับความคิดเห็นที่นำเสนอในการเสวนา ไม่ได้หมายความว่าการรักษานั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง